โรงเรียนวัดปัตติการาม

หมู่ที่ 6 บ้านปะเต ตำบลท้ายเหมือง อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา 82120

น้ำตาล อธิบายศึกษาข้อมูลของสารให้ความหวานแทนน้ำตาลมีอะไรบ้าง

น้ำตาล

น้ำตาล สารให้ความหวานเป็นสารเติมแต่งอาหาร ที่ใช้เพื่อทำให้ของกินและน้ำมีรสหวานแทนน้ำตาล มี 2 ประเภทที่มีพลังงานและไม่มีพลังงาน มักใช้โดยผู้ที่ต้องการควบคุมระดับน้ำตาลและพลังงาน เช่นผู้ป่วยโรคเบาหวานและผู้ที่ควบคุมน้ำหนัก สารให้ความหวานส่วนใหญ่ มักจะใช้ในปริมาณน้อยเพราะหวานกว่าน้ำตาลหลายเท่า และยังลดการใช้พลังงานอีกด้วย

หลายท่านคงเคยได้ยินชื่อสารให้ความหวาน น้ำตาล เช่น หญ้าหวาน บทความนี้จะแนะนำคุณเกี่ยวกับประเภท ประโยชน์ และข้อจำกัดของสารให้ความหวานอื่นๆ นอกเหนือจากน้ำตาล และสารให้ความหวานเทียมหลายชนิดพร้อมกับน้ำผึ้ง สารให้ความหวานที่นิยมใช้แทนน้ำตาลในปัจจุบัน สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทดังต่อไปนี้

สารให้ความหวานที่ให้พลังงาน สารให้ความหวานในกลุ่มนี้มักเป็นน้ำตาลอัลโดส ซึ่งเป็นสารให้ความหวานที่ยังคงให้พลังงาน แต่ในปริมาณที่ค่อนข้างน้อย น้ำตาลจะถูกดูดซึมได้ช้ากว่าน้ำตาลทั่วไป ดังนั้นจึงอาจช่วยป้องกันน้ำตาลในเลือดสูงอย่างกะทันหันหลังรับประทานอาหารได้ นี่เป็นสถานการณ์ที่อันตรายสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน

น้ำตาลอัลโดสยังไม่ทำให้ฟันผุ มักพบในส่วนผสมจากธรรมชาติและสารสังเคราะห์ ไม่ว่าจะเป็นอาหารหรือสินค้าอุปโภคบริโภค เช่น หมากฝรั่งปราศจากน้ำตาล ลูกอม ไอศกรีม แยม ยาน้ำ ยาอม ยาสีฟัน และน้ำยาบ้วนปาก เป็นต้น ตัวอย่างของสารให้ความหวานจากน้ำตาลอัลโดส ได้แก่ ซอร์บิทอล ไซลิทอล ไอโซมอลต์ แมนนิทอล มอลทิทอล และอีริทริทอล

สารให้ความหวานเทียม คือสารให้ความหวานเทียมที่ใช้แทนน้ำตาลและมีให้เลือกมากมาย ซึ่งแต่ละชนิดก็มีการใช้งานและข้อจำกัดที่แตกต่างกันไป ส่วนใหญ่จะหวานกว่าน้ำตาลหลายร้อยเท่า ดังนั้นปริมาณของมันจึงน้อยมาก และสามารถทำเป็นเครื่องดื่มหรืออาหารพลังงานต่ำได้ ปัจจุบัน องค์การอาหารและยาอาจอนุญาตให้ผลิตภัณฑ์บางอย่างที่เติมน้ำตาลน้อยกว่า 0.5 กรัม ติดฉลากว่าไม่มีแคลอรี

ตัวอย่างของสารให้ความหวานเทียม ได้แก่ แอสปาร์แตมมีความหวานมากกว่าน้ำตาล 150 ถึง 190 เท่า และมีรสขมเมื่อถูกความร้อน และห้ามใช้ในผู้ที่มีภาวะฟีนิลคีโตนูเรีย ซึ่งเป็นโรคทางระบบเผาผลาญ แซ็กคาริน มีความหวานมากกว่าน้ำตาล 200 ถึง 700 เท่า และอาจมีรสขมเล็กน้อย

ซูคราโลสให้ความหวานมากกว่าน้ำ 500 เท่า และมีรสชาติเหมือนน้ำตาล ใช้ปรุงอาหารร้อนได้ ไม่มีความขมขื่น สตีวิโอไซด์หรือหญ้าหวานมีความหวานมากกว่าน้ำตาล 150 ถึง 300 เท่า และทนความร้อนได้ แม้ว่าน้ำตาลเทียมจะไม่ให้พลังงานหรือให้พลังงานต่ำมากก็ตาม อย่างไรก็ตาม ควรรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะเพื่อป้องกันผลข้างเคียงจากการใช้

ผู้ป่วยโรคเบาหวานเป็นกลุ่มคนที่จำเป็น ต้องรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในการควบคุม การบริโภคน้ำตาลและแป้งคาร์โบไฮเดรตอาจส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือด ผู้ป่วยโรคเบาหวานบางราย อาจเลือกใช้สารให้ความหวานที่มีแคลอรีต่ำในการปรุงอาหารเพื่อลดการบริโภคน้ำตาล ช่วยเพิ่มการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนจากน้ำตาลในเลือดสูง

อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยเบาหวานแต่ละคนอาจมีข้อจำกัดในการใช้สารให้ความหวานต่างกัน หารือเกี่ยวกับประเภทของสารให้ความหวาน และปริมาณที่ถูกต้องกับแพทย์ของคุณ ความเสี่ยงและข้อควรระวัง นอกจากนี้ ผู้ที่เป็นเบาหวานควรพิจารณาแหล่งคาร์โบไฮเดรตอื่นๆ ในมื้ออาหารด้วย

น้ำตาล

สารที่ให้ความหวานที่ใช้แทนน้ำตาลปลอดภัยหรือไม่ การวิจัยพบว่าในคนที่ไม่มีปัญหาสุขภาพ สารให้ความหวานมักจะไม่เป็นอันตรายเมื่อใช้ในปริมาณที่พอเหมาะ ผลการทดสอบของผู้ผลิตระบุว่าผลิตภัณฑ์เหล่านี้ไม่สะสมในร่างกาย ไม่ก่อให้เกิดการแพ้หรือผลเสียต่อร่างกาย ไม่ส่งผลต่อระบบสืบพันธุ์ ไม่ก่อให้เกิดโรคหรือส่งผลเสียต่อสุขภาพ

แต่ควรรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะเพื่อความปลอดภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากคุณมีโรคประจำตัวหรือกำลังอยู่ในระหว่างการรักษา เนื่องจากการได้รับสารซอร์บิทอลและแมนนิทอลในปริมาณสูง ทำให้ท้องอืดและท้องเสีย หากได้รับในปริมาณที่มากเกินไป อาจทำให้เกิดผลเสียได้

ในส่วนของการบริโภค การกินอาหารที่มีแคลอรีต่ำ หรืออาหารที่มีสารให้ความหวาน อาจดีกว่าการดื่มเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลในปริมาณที่เท่ากัน แต่ด้วยข้อดีนี้อาจส่งผลเสียต่อพฤติกรรมการกิน พฤติกรรมกระตุ้นให้อยากกินบ่อยขึ้นอาจมีปัญหาสุขภาพบางอย่างที่งานวิจัยยังระบุไม่ได้

นอกจากนี้ สารทดแทนน้ำตาลอาจมีรสชาติไม่เหมือนกับน้ำตาล บางชนิดอาจมีรสขมและมีรสตามธรรมชาติเมื่อถูกความร้อน หรือบางผลิตภัณฑ์มีส่วนผสมของสารให้ความหวาน ดังนั้น ควรทราบข้อมูลและส่วนผสมของผลิตภัณฑ์นี้ก่อนซื้อและบริโภค ตลอดจนการเลือกใช้สารให้ความหวานที่เหมาะสมกับอาหารที่ปรุง เพื่อหลีกเลี่ยงรสชาติที่ไม่พึงประสงค์

กรมสาธารณสุขแนะนำว่าผู้ใหญ่ควรกินน้ำตาลไม่เกิน 30 กรัม หรือน้ำตาล 4 ช้อนชาต่อวัน และเด็กอายุ 50 ปีขึ้นไปไม่ควรกินน้ำตาลเกิน 16 กรัม หรือน้ำตาล 4 ช้อนชา หรือให้นมบุตร ปริมาณน้ำตาลที่เหมาะสมอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสภาวะทางการแพทย์ของคุณ หากคุณเป็นคนรักของหวานหรือเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล ควรจำกัดปริมาณน้ำตาลในแต่ละวันของคุณ

เลือกสารให้ความหวานที่มีแคลอรีต่ำ จับคู่กับการออกกำลังกายที่เหมาะสม เพราะน้ำตาลมากเกินไปอาจนำไปสู่โรคเรื้อรังต่างๆ ท้ายที่สุดแล้ว สารให้ความหวานเป็นเพียงตัวเลือกที่ช่วยให้ควบคุมน้ำตาล และพลังงานได้ง่ายขึ้น แต่สารปรุงแต่งอาหารเหล่านี้อาจไม่จำเป็น หากคุณสามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดในแต่ละวันได้ด้วยตัวเอง

บทความที่น่าสนใจ : เรือบรรทุก แนวคิดเรือบรรทุกเครื่องบินโดยพลังงานนิวเคลียร์ถูกเปิดเผย

บทความล่าสุด